นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

    คณะกรรมการของ บริษัท โมเดิร์น ยูนิเวอร์แซล จำกัด (“บริษัท”) ในฐานะนายจ้างที่รับผิดชอบบริหารจัดการการคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการให้แก่พนักงานของบริษัท มีจุดประสงค์ ออกประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานฉบับนี้เพื่อให้พนักงานทั้งหมดพึงรับทราบเกี่ยวกับสิทธิ และเงื่อนไขต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทดำเนินการ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

    ภายใต้ประกาศฉบับนี้ พนักงานหมายความรวมถึง
        (1 ) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างที่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน
        (2) พนักงานฝึกงาน
        (3) พนักงานเกษียณที่เป็นที่ปรึกษาภายใต้สัญญาจ้างทำของของบริษัท (“พนักงาน”)

ข้อ 1  ชื่อประกาศและผลบังคับใช้

    1.1 ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน” และให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่บริษัทประกาศเป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับกับพนักงานทั้งหมดของบริษัท

    1.2 บริษัทอาจปรับปรุงประกาศฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงาน หรือการให้การคุ้มครองแรงงานหรือสวัสดิการแก่พนักงาน ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้พนักงานทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยประกาศนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อถูกประกาศใช้

ข้อ 2 นิยามข้อมูลส่วนบุคคล

    “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ทําให้สามารถระบุตัวตนของพนักงานแต่ละบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่บริษัท
         (ก) ได้รับโดยตรงจากพนักงานเอง
        (ข) ได้รับจากผู้ให้บริการคุ้มครองและจัดสวัสดิการคุ้มครองแรงงานภายนอก ที่บริษัทว่าจ้างให้การคุ้มครองแรงงานแก่พนักงาน หรือ
        (ค) ได้รับจากการรวบรวม การประเมินผล และจัดทำข้อมูลดังกล่าวขึ้นเพิ่มเติม โดยบริษัทเองในฐานะนายจ้าง ระหว่างการว่าจ้างงานภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดที่บริษัทกำหนด

ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล ได้แก่

    3.1 ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนพนักงานโดยตรง อาทิ ชื่อนามสกุล เลขที่และสำเนาบัตรประจำประชาชน อายุ สัญชาติ วันเกิด รวมถึงประวัติแสดงคุณสมบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานซึ่งได้ให้แก่บริษัทตามแบบฟอร์มการรับสมัครงานและสัญญาจ้างแรงงาน

    3.2 ข้อมูลการติดต่อของพนักงาน อาทิ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ

    3.3 ข้อมูลการชำระเงินที่บริษัทดำเนินการให้แก่พนักงาน อาทิเช่น บัญชีธนาคาร ประวัติการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ รวมถึงเงินเดือน เลขที่ประกันสังคม รายละเอียดประกันสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่น ๆ และรายละเอียดการใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานดังกล่าว

    3.4 ข้อมูลประวัติการทำงานและการฝึกอบรมต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประวัติการเข้าทำงาน ประวัติการลา ซึ่งได้รับการบันทึกโดยระบบบันทึกการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ และจากแบบประเมินความสามารถและการวัดผลของบริษัท

    3.5 ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวอื่น ๆ เช่น ข้อมูลชีวภาพ ได้แก่ ลายนิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า ข้อมูลสุขภาพ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี ใบรับรองแพทย์ หรือรายละเอียดการเบิกค่ารักษาพยาบาล การสุ่มตรวจสารเสพติด การรับการรักษาและวัคซีน โรคประจำตัวต่าง ๆ) เป็นต้น

    3.6 ข้อมูลภาพถ่ายทั้งที่เป็นภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวของพนักงานที่เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้นทั้งที่เป็นกิจกรรม ส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในองค์กร และกิจกรรมการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก

    3.7 ข้อมูลชื่อนามสกุล ลายเซ็น และรายการดำเนินการอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดทำ รวบรวม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามและ การจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทางการที่จ้างของบริษัท

    3.8 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่พนักงานอาจให้แก่บริษัทเพื่อการประเมิน วิเคราะห์ บริหารจัดการ และจัดหาสวัสดิการเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน เช่น แบบฟอร์มการแสดงความคิดเห็น แบบฟอร์มการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น

ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล

    4.1 ในกรณีที่บริษัทมีการจัดสวัสดิการ ให้แก่สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงาน ทั้งในลักษณะของสวัสดิการที่ให้แก่ครอบครัวโดยตรง และ/หรือการให้ประโยชน์ในฐานะผู้รับผลประโยชน์จากพนักงาน เพื่อการดำเนินการให้สวัสดิการดังกล่าว บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของสมาชิกครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ และเอกสารแสดงตนของบุคคลดังกล่าว รวมถึงกรณีได้รับความยินยอมและจำเป็นสำหรับการให้สวัสดิการที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงข้อมูลสุขภาพของบุคคลนั้น

    4.2 ในกรณีที่พนักงานเป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลดังกล่าว บริษัทจะถือว่า พนักงานให้การรับประกันว่า พนักงานมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และขอความยินยอมจากสมาชิกดังกล่าวครบถ้วนและถูกต้องแล้ว

ข้อ 5 วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    ภายใต้กรอบ
        (1) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อการคุ้มครองแรงงาน และอื่น ๆ
        (2) การปฏิบัติหน้าที่ของนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน รวมถึง
        (3) การคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทมีวัตถุประสงค์หลักในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่ระบุไว้ ดังนี้

    5.1 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมาย รวมทั้งกฏ แนวปฏิบัติ หรือคำสั่ง คำแนะนำ หนังสือบอกกล่าว ซึ่งออกโดยหน่วยงานที่กํากับดูแล บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อจุดประสงค์เฉพาะ ได้แก่ การอํานวยความสะดวก และ/หรือควบคุมดูแลการคำนวณชำระภาษีอากร และการหักภาษี ณ ที่จ่าย การจัดทำทะเบียนพนักงาน การประกันสังคม การจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงาน การคุ้มครองและดูแลอาชีวอนามัยแรงงาน และอาจรวมถึงการตรวจคนเข้าเมือง และ/หรือการได้รับอนุญาตให้ทํางาน/ใบอนุญาตทํางาน (กรณีพนักงานต่างประเทศ) ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

    5.2 เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งอาจรวมถึง การควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของพนักงาน

        1. การบริหารจัดการดูแลการจ่ายเงินเดือน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจสอบดูแล และ/หรือการจัดการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน การตั้งเป้าหมายการปฏิบัติงาน การจัดการและ/หรือการบันทึกความสําเร็จ หรือความก้าวหน้าของพนักงาน

        2. การพิจารณาความเหมาะสมในการเลื่อนตําแหน่งของพนักงาน การให้รางวัลหรือผลประโยชน์อื่นใดที่บริษัทอาจจัดให้รวมถึงการพิจารณาออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม (ไม่ว่าจัดขึ้นโดยบริษัทหรือบุคคลอื่น) หรือใช้ในการบังคับมาตรการลงโทษต่อพนักงานที่อาจปฏิบัติไม่สอดคล้อง หรือละเมิดหน้าที่การจ้างงานที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานหรือประกาศแรงงานอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน

        3. การจัดการและ/หรือการบริหารสิทธิประโยชน์และสวัสดิการในการจ้างงาน การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิและการยืนยันตัวตนเพื่อให้สวัสดิการ ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานแก่พนักงานในส่วนต่าง ๆ เช่น สิทธิประกันภัยและ/หรือข้อเรียกค่าสินไหม การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ (ไม่ว่าสําหรับตัวพนักงานเอง หรือสมาชิกในครอบครัว หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดหาไว้ให้)

        4. การติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมดูแลและ/หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัทหรือการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

    5.3 เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร การใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท รวมถึงการปกป้องที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

        1. การทํากิจกรรมการวิจัย วิเคราะห์และพัฒนา (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการสํารวจทําแบบสอบถามและ/หรือการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รวมถึงเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท หรือเพื่อสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงาน

        2. การจัดการกระบวนการทางกฎหมาย การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหาย การต่อสู้คดีหรือข้อเรียกร้องทางศาล และการบริหารจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องใด ๆ

        3. การเก็บบันทึกและจัดทําสถิติ การวิจัยภายใน และ/หรือการรายงานตามกฎหมาย และ/หรือการเก็บบันทึกข้อมูลตามข้อกําหนดต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานของบริษัทและ/หรือบริษัทในเครือ

        4. การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ขององค์กร โดยอาจมีการเปิดเผยและนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ซึ่งอาจรวม ถึงแต่ไม่จำกัดเพียงภาพถ่าย หรือข้อมูลความเชี่ยวชาญคุณสมบัติของพนักงาน โดยข้อมูลสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนั้นจะถูกนำมาใช้ เปิดเผย ประมวลผล และเผยแพร่ในจดหมาย ข่าว หรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใดซึ่งทำขึ้นหรือออกเผยแพร่โดยบริษัททั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบกระดาษ

        5. การบริหารจัดการบริหารความเสี่ยง การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การควบคุมและกำกับดูแลการทำงานภายในของบริษัท ผ่านกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานดังกล่าวในอนาคตที่ พนักงานดังกล่าวอาจกลับมาสมัครงานที่บริษัทอีกครั้ง

        6. การเก็บ ควบคุม สํารอง และ/หรือ กู้คืนจากความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

    5.4 กรณีที่พนักงานให้ความยินยอมเป็นการเฉพาะ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ตามวัตถุประสงค์เฉพาะที่พนักงานให้ความยินยอมไว้

ข้อ 6  ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    6.1 บริษัทมีความจำเป็น ในการจัดเก็บ และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตลอดระยะเวลาสัญญาจ้างแรงงานของแต่ละคน และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาตามกรอบระยะเวลาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    6.2 บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามกำหนดอายุความ 10 ปีหลังจากหมดหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และการต่อสู้เรียกร้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายระหว่างบริษัทและพนักงาน ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานดังกล่าว และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทรับประกันว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวจะไม่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และให้สิทธิเจ้าของข้อมูลในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลได้ตามกฎหมาย

    6.3 กรณีการใช้ภาพสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ รวมถึง การจัดทำสถิติ และรายงานเอกสารต่าง ๆ ที่พนักงานได้ดำเนินการในทางการที่จ้างของบริษัท บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีความจำเป็นทางด้านธุรกิจในการดำเนินการดังกล่าว

ข้อ 7 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงาน ที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานและภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจมีความจําเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานต่อบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ได้กําหนดไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวที่จะได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่

    7.1 ลูกค้า คู่ค้าของบริษัท บริษัทในเครือ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ดําเนินการเกี่ยวกับ การให้สวัสดิการ ต่าง ๆ แก่พนักงานแทนและเพื่อบริษัท ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการประกันกลุ่ม ผู้ให้บริการบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRM) หรือให้บริการพัฒนาบุคลากร (HRD) หรือผู้ให้บริการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ผู้ให้บริการจัดทำและประมวลผลค่าแรงค่าจ้างและจัดหาสวัสดิการ บริษัทประกันภัย บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น รวมถึง ที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ดําเนินกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น ภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

    7.2 บุคคลภายนอกใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การร่วมทุน การโอนสิทธิ์ การโอน หรือการจําหน่ายโดยลักษณะอื่นใดซึ่งธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพียงการเสนอหรือการดําเนินการจริงก็ตาม (รวมถึงการดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายหรือกระบวนการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน) ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและองค์กรภายนอกดังกล่าว

    7.3 หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมจัดหางาน ศาลและองค์คณะในการระงับข้อพิพาทอื่นใด หรือหน่วยงานราชการอื่นที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่ง กฎหมาย หรือคำพิพากษา

    7.4 ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นตามที่พนักงานระบุและแจ้งให้บริษัททราบ

ข้อ 8 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

    8.1 บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังกล่าว อย่างสม่ำเสมอเป็นปกติ เพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    8.2 ในกรณีที่พนักงานคนใดมีสิทธิเข้าถึงหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใด พนักงานดังกล่าวยอมรับและรับทราบหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว เช่นเดียวกัน โดยรับประกันชดเชยและชดใช้ให้แก่บริษัทกรณีที่เกิดความเสียหายใด แก่บริษัท อันเกิดจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว

ข้อ 9 สิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูล

    บริษัทประกาศยืนยันสิทธิตามกฎหมายของพนักงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่

    9.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง

    9.2 สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

    9.3 สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    9.4 สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม

    9.5 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น

    9.6 สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่พนักงานเคยให้ไว้

    บริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของพนักงานให้พนักงานทราบ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ พนักงานสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ที่: modern.universal99@gmail.com

 

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

Powered by MakeWebEasy.com