5.3 เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร การใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท รวมถึงการปกป้องที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. การทํากิจกรรมการวิจัย วิเคราะห์และพัฒนา (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการสํารวจทําแบบสอบถามและ/หรือการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รวมถึงเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท หรือเพื่อสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงาน
2. การจัดการกระบวนการทางกฎหมาย การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหาย การต่อสู้คดีหรือข้อเรียกร้องทางศาล และการบริหารจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องใด ๆ
3. การเก็บบันทึกและจัดทําสถิติ การวิจัยภายใน และ/หรือการรายงานตามกฎหมาย และ/หรือการเก็บบันทึกข้อมูลตามข้อกําหนดต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานของบริษัทและ/หรือบริษัทในเครือ
4. การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ขององค์กร โดยอาจมีการเปิดเผยและนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ซึ่งอาจรวม ถึงแต่ไม่จำกัดเพียงภาพถ่าย หรือข้อมูลความเชี่ยวชาญคุณสมบัติของพนักงาน โดยข้อมูลสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนั้นจะถูกนำมาใช้ เปิดเผย ประมวลผล และเผยแพร่ในจดหมาย ข่าว หรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใดซึ่งทำขึ้นหรือออกเผยแพร่โดยบริษัททั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบกระดาษ
5. การบริหารจัดการบริหารความเสี่ยง การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การควบคุมและกำกับดูแลการทำงานภายในของบริษัท ผ่านกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานดังกล่าวในอนาคตที่ พนักงานดังกล่าวอาจกลับมาสมัครงานที่บริษัทอีกครั้ง
6. การเก็บ ควบคุม สํารอง และ/หรือ กู้คืนจากความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
5.4 กรณีที่พนักงานให้ความยินยอมเป็นการเฉพาะ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ตามวัตถุประสงค์เฉพาะที่พนักงานให้ความยินยอมไว้
ข้อ 6 ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 บริษัทมีความจำเป็น ในการจัดเก็บ และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตลอดระยะเวลาสัญญาจ้างแรงงานของแต่ละคน และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาตามกรอบระยะเวลาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
6.2 บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามกำหนดอายุความ 10 ปีหลังจากหมดหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และการต่อสู้เรียกร้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายระหว่างบริษัทและพนักงาน ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานดังกล่าว และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทรับประกันว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวจะไม่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และให้สิทธิเจ้าของข้อมูลในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลได้ตามกฎหมาย
6.3 กรณีการใช้ภาพสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ รวมถึง การจัดทำสถิติ และรายงานเอกสารต่าง ๆ ที่พนักงานได้ดำเนินการในทางการที่จ้างของบริษัท บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีความจำเป็นทางด้านธุรกิจในการดำเนินการดังกล่าว
ข้อ 7 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงาน ที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานและภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจมีความจําเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานต่อบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ได้กําหนดไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวที่จะได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่
7.1 ลูกค้า คู่ค้าของบริษัท บริษัทในเครือ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ดําเนินการเกี่ยวกับ การให้สวัสดิการ ต่าง ๆ แก่พนักงานแทนและเพื่อบริษัท ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการประกันกลุ่ม ผู้ให้บริการบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRM) หรือให้บริการพัฒนาบุคลากร (HRD) หรือผู้ให้บริการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ผู้ให้บริการจัดทำและประมวลผลค่าแรงค่าจ้างและจัดหาสวัสดิการ บริษัทประกันภัย บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น รวมถึง ที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ดําเนินกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น ภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
7.2 บุคคลภายนอกใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การร่วมทุน การโอนสิทธิ์ การโอน หรือการจําหน่ายโดยลักษณะอื่นใดซึ่งธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพียงการเสนอหรือการดําเนินการจริงก็ตาม (รวมถึงการดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายหรือกระบวนการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน) ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและองค์กรภายนอกดังกล่าว
7.3 หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมจัดหางาน ศาลและองค์คณะในการระงับข้อพิพาทอื่นใด หรือหน่วยงานราชการอื่นที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่ง กฎหมาย หรือคำพิพากษา
7.4 ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นตามที่พนักงานระบุและแจ้งให้บริษัททราบ
ข้อ 8 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังกล่าว อย่างสม่ำเสมอเป็นปกติ เพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
8.2 ในกรณีที่พนักงานคนใดมีสิทธิเข้าถึงหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใด พนักงานดังกล่าวยอมรับและรับทราบหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว เช่นเดียวกัน โดยรับประกันชดเชยและชดใช้ให้แก่บริษัทกรณีที่เกิดความเสียหายใด แก่บริษัท อันเกิดจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว
ข้อ 9 สิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูล
บริษัทประกาศยืนยันสิทธิตามกฎหมายของพนักงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่
9.1 สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง
9.2 สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
9.3 สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
9.4 สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม
9.5 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น
9.6 สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่พนักงานเคยให้ไว้
บริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของพนักงานให้พนักงานทราบ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ พนักงานสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ที่: modern.universal99@gmail.com
ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565